การทำใบขับขี่ ในปี 2565 ถือว่ามีความแตกต่างจากปกติอยู่พอสมควร นั่นก็เป็นเพราะสถานการณ์ของโควิด – 19 ทำให้กรมการขนส่งทางบกได้ยืดระยะเวลาการขอทำใบขับขี่ออกไป แต่เมื่อสถานการณ์เริ่มคลี่คลายก็ได้เริ่มให้ประชาชนสามารถทำใบขับขี่ได้แล้ว โดยขั้นตอนทำใบขับขี่ที่อัพเดทล่าสุดมีขั้นตอนอย่างไรกันบ้างมาดูกันแบบละเอียดกันเลย
อย่างแรกประชาชนผู้ที่ต้องการทำใบขับขี่ หรือต่อใบขับขี่ (ทุกประเภท) ต้องทำการจองคิวเพื่อเข้ารับการอบรมทำใบขับขี่ผ่านทางแอปพลิเคชัน DLT Smart Queue หลังจากจองคิวเสร็จสรรพก็มาถึงขั้นตอนอบรบกันต่อ โดยจะเป็นการอบรมออนไลน์ผ่านระบบ DLT-elearning โดยจะมีสิทธิ์เข้าอบรมภายใน 90 วัน หากเลยจากนั้นก็ต้องจองคิวใหม่
เมื่อเข้าอบรมออนไลน์เสร็จ ก็ให้บันทึกหน้าจอเอาไว้ เพื่อนำไปแสดงให้เจ้าหน้าที่สำนักงานกรมการขนส่งดู เพื่อรับเวลานัดหมายในการสอบใบขับขี่ต่อไป โดยสามารถไปทำใบขับขี่ที่สำนักงานขนส่งทั่วประเทศ หลังจากกลับมาเปิดให้บริการได้ตามปกติ
ขั้นตอนการทำใบขับขี่ใหม่สำหรับรถจักรยานยนต์ และรถยนต์
เอกสารที่ต้องเตรียม – บัตรประชาชนตัวจริง ใบรับรองแพทย์ (ไม่เกิน 1 เดือน)
วันแรก อบรมโดยใช้เวลา 5 ชั่วโมง มีการทดสอบร่างกาย โดยการเช็กตาบอดสี ความกว้าง ลึกของสายตา และความเร็วของเท้า (จากคันเร่งไปที่เบรก)
วันต่อมา สอบข้อเขียน เสร็จแล้วไปจองคิวสอบขับรถ – สอบขับรถ ถ้าผ่าน ก็ได้รับใบอนุญาต หากไม่ผ่านก็ไปจองคิวสอบใหม่
หากสอบผ่าน รถยนต์จะเสียค่าธรรมเนียม 305 บาท รถจักรยานยนต์ 205 บาท
การต่ออายุใบขับขี่ 5 ปี เป็น 5 ปี และ การเปลี่ยนอายุใบขับขี่ใบขับ 2 ปี เป็น 5 ปี
เอกสารที่ต้องเตรียม – บัตรประชาชนตัวจริง, ใบขับขี่เดิม, ใบรับรองแพทย์ (ไม่เกิน 1 เดือน)
ขั้นตอนหากจองคิว และอบรมทางออนไลน์เรียบร้อยแล้วก็ให้ไปทดสอบร่างกาย เสร็จแล้วก็รับใบขับขี่
การเสียค่าธรรมเนียม รถยนต์ 505 บาท รถจักรยานยนต์ 255 บาท
การต่อใบขับขี่ทุกประเภทสามารถทำล่วงหน้าได้ 90 วันก่อนใบขับขี่จะหมดอายุ และหากปล่อยใบขับขี่หมดอายุเกิน 1 ปี ต้องอบรม 2 ชั่วโมง และสอบข้อเขียนใหม่ หากเกิน 3 ปีขึ้นไปการทำใบขับขี่ ต้องอบรม 2 ชั่วโมง และสอบทั้งข้อเขียน และสอบขับรถใหม่
หากใครยังไม่มีใบขับขี่ หรือใบขับขี่หาย หรือต้องการต่ออายุก็ควรรีบทำ เพราะถือว่าเป็นสิ่งสำคัญหากต้องใช้รถใช้ถนน คงไม่ใช่เรื่องนี้แน่หากต้องขับรถไปไหนมาไหนโดยไม่มีใบขับขี่ เพราะมีผลเสียมากมายยิ่งเดียวนี้ การทำใบขับขี่สามารถจอง และอบรมแบบออนไลน์ จึงทำให้มีความสะดวก รวดเร็วขึ้นอีกเยอะ เรียกได้ว่าเป็นมิติใหม่สำหรับทำใบขับขี่เลยก็ว่าได้