น้ำมันหล่อลื่น ส่วนใหญ่คงนึกถึงน้ำมันเครื่องยนต์ แต่จริง ๆ แล้วรถหนึ่งคันจำเป็นต้องใช้น้ำมันสำหรับหล่อลื่นอยู่หลายส่วน เพื่อให้การขับขี่มีประสิทธิภาพ และหากขาดสิ่งหนึ่งไปก็จะทำให้รถเสียพังได้เลย ดังนั้นมาดูกันว่ารถหนึ่งคันต้องใช้นำมันสำหรับการหล่อลื่นอะไรกันบ้าง
น้ำมันเครื่อง
ถือเป็นน้ำมันสำหรับหล่อลื่นเครื่องยนต์ที่สำคัญเป็นอย่างมาก เพราะมีผลทำให้เครื่องยนต์ทำงานไหลลื่นได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และหากละเลยจนปล่อยให้แห้งรับรองว่าต้องได้ซ่อมหนักอย่างแน่นอนซึ่งโดยปกติจะเปลี่ยนถ่ายทุก ๆ 8,000-10,000 กิโลเมตร หรือ 6 เดือน แต่หากเป็นน้ำมันเครื่องเกรดธรรมดา กึ่งสังเคราะห์ หรือสังเคราะห์ 100% ก็อาจจะต้องถ่ายเร็วขึ้นประมาณๆ 5,000 กิโลเมตร หรือทุก 3 เดือน นั่นเอง
น้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์
น้ำมันประเภทนี้จะทำให้บังคับ หรือหมุนพวงมาลัยได้ง่าย และเบาขึ้นทำให้การขับขี่มีความคล่องตัว ถึงแม้รถรุ่นใหม่ ๆ อาจไม่ค่อยมีการใช้งานสักเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ควรละเลยควรหมั่นตรวจเช็กให้อยู่ในระดับปกติอยู่เป็นประจำ หากเป็นไปได้ควรหมั่นเปลี่ยนทุก ๆ 80,000 กิโลเมตร หรือตามที่คู่มือการใช้งานรถกำหนด และควรเลือกน้ำมันที่เหมาะสมกับรถ
น้ำมันเบรก
เป็นน้ำมันหล่อลื่นที่จะช่วยให้การเบรกมีประสิทธิภาพมากขึ้น และช่วยให้ผู้ขับขี่มีความปลอดภัย การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเบรกก็ควรทำตามกำหนด ซึ่งส่วนใหญ่น้ำมันเบรกจะใช้ได้จนถึง 80,000 กิโลเมตร หรือประมาณ 3 ปี แต่เพื่อความปลอดภัยไม่ประมาทควรจะถ่ายทุก ๆ 40,000 กิโลเมตร หรือหากใช้งานไม่มากก็อาจจะเปลี่ยนทุก ๆ 1 ปีก็ได้ รวมไปถึงควรหมี่นจรวจเช็กอยู่เป็นประจำก็จะทำให้อุ่นใจมากขึ้น
น้ำมันคลัตช์
น้ำมันหล่อลื่น ที่จะช่วยให้การขับขี่ไหลลื่นมีประสิทธิภาพ หากน้ำมันคลัตช์หมดก็อาจจะทำให้เร่งไม่ขึ้น หารเปลี่ยนน้ำมันคลัตช์ ปกติจะทำพร้อม ๆ กับน้ำมันเบรก เนื่องจากมีระยะการใช้งานที่พอ ๆ กัน (6-8 เดือน) ซึ่งหากไม่ยอมเปลี่ยนถ่ายก็อาจจะทำให้ชิ้นส่วนภายในเป็นสนิมได้เพราะว่าในน้ำมันคลัตช์จะมีส่วนผสมของน้ำอยู่
น้ำมันเกียร์ น้ำมันเฟืองท้าย
เป็นน้ำมันที่จะช่วยให้รถเคลื่อนตัว ล้อหมุน ไม่กระตุก ขับได้เต็มสมรรถนะ และยังช่วยยืดอายุการใช้งานลดการสึกหรอของเกียร์ รวมไปถึงช่วงป้องกันสนิมจากการกัดกร่อนภายในอีกด้วย การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันก็คือ ทุก ๆ 30,000-40,000 กิโลเมตร หากเป็นรถที่ใช้ในเมืองที่เปลี่ยนเกียร์บ่อย ๆ ควรเปลี่ยนทุก ๆ 10,000-20,000 กิโลเมตร หรือปีละครั้ง
ดังนั้นเมื่อรู้ย่างนี้แล้วก็ไม่ควรลืมตรวจเช็กน้ำมันหล่อลื่น หากใครไม่ได้เช็กนานจนลืมไปแล้วว่าต้องเปลี่ยนเมื่อไหร่ แนะนำว่าให้รีบเข้าศูนย์เพื่อทำการตรวจเช็กจะดีที่สุด
