นมแม่เป็นอาหารที่เหมาะต่อการเลี้ยงลูกมากที่สุด เพราะเป็นการส่งต่อความรัก ความอบอุ่น เอื้ออาทร จากแม่สู่ลูก นอกจากนั้นยังทำให้ลูกอิ่มพร้อมกับเจริญเติบโตได้อย่างเต็มวัยทั้งร่างกาย และสมอง รวมไปถึงยังช่วยให้ลูกแข็งแรงเพราะในน้ำนมนั้นมีสารอาหารมากมายที่หาที่ไหนไม่ได้ จึงช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันได้มากมายหลายโรค โดยในช่วง 6 เดือนแรกนั้นจำเป็นอย่างมากที่ลูกควรจะได้รับน้ำนมของแม่เพียงอย่างเดียว
แต่คุณแม่หลาย ๆ คนก็มักจะตั้งคำถามว่าทำไมต้อง 6 เดือนแรก เพราะเมื่อสมัยก่อนหลังจากให้ลูกดื่มนมของแม่เพียงแค่ 4 เดือน ก็สามารถเริ่มให้อาหารเสริมควบคู่ไปด้วยกันได้แล้วหรือในสมัยเมื่อราว ๆ 50 ปีที่แล้ว แค่ 2 เดือนก็ให้กินข้าว กับกล้วยพร้อมกับนม และกินน้ำ กินน้ำส้มคั้น 1 เดือน ต่อมาในช่วงปี พ.ศ 2522 ก็มีการพบว่าควรให้ทารกกินน้ำนมของแม่อย่างเดียวยาว 4 เดือน เพราะเมื่อก่อนแม่มักจะให้ลูกกินนมควบคู่กับการกินข้าวทำให้พบว่าเด็กป่วยบ่อยเพราะภูมิคุ้มกันน้อย แต่ก็ยังไม่ได้ระบุว่าควรกินถึง 6 เดือน
จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2545 จึงมีประกาศจากองค์การอนามัยโลกว่าควรให้ทารกกินนมแม่ นาน 6 เดือน เพราะมีการศึกษาเพิ่มเติมพบว่า การในเด็กกินน้ำนมของแม่เพียงอย่างเดียวในระยะเวลาที่นานขึ้นมีผลดีต่อสุขภาพของเด็กเพิ่มขึ้นไม่ว่าจะเป็นการลดความเสี่ยงจากโรคท้องเสีย โรคทางเดินหายใจ โรคภูมิแพ้ และช่วยในด้านการพัฒนาสมองได้มากกว่า
เมื่อเป็นเช่นนี้จึงสบายใจและเชื่อมั่นหากลูกกินน้ำนมแม่เพียงอย่างเดียวในช่วง 6 เดือนแรก ลูกจะไม่ขาดสารอาหารอย่างแน่นอน และยังมีส่วนช่วยอีกหลายอย่างดังนี้
ความสำคัญของการดื่มนมแม่ในช่วง 6 เดือนแรก
- ช่วงส่งเสริมพัฒนาให้สมองของเด็กเจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็ว
- ในช่วงนี้ระบบทางเดินอาหารของเด็กยังย่อยอาหารได้ไม่ดี แต่น้ำนมของแม่สามารถย่อยได้ง่ายที่สุด
- เป็นช่วงที่เด็กจะป่วยได้ง่ายเพราะภูมิคุ้มกันมีน้อย แต่ในน้ำนมของแม่เต็มไปด้วยสารอาหารที่ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน
- เด็กทารกจะมีกระเพาะอาหารที่ไม่ใหญ่ และยืดหยุ่นได้น้อย หากทานอาหารประเภทอื่นร่วมจะไปแย่งพื้นที่ของน้ำนม
ดังนั้นในช่วง 6 เดือนแรกหากเด็กทานอาหารอื่น ๆ ควบคู่ไปด้วยจะทำให้มีโอกาสไม่สบายเพิ่มขึ้น เพราะในอาหารที่รับเข้าไปนอกจากสารอาหารมีน้อยแล้วยังมีเชื้อโรคปะปนอยู่ หากทานอาหารอื่นควบคู่กับการกินนมแม่ ยังมีโอกาสที่เด็กจะแพ้โปรตีน การทานอาหารอื่น ๆ ทำยังทำให้เด็กอิ่มเร็วดูดน้ำนมของแม่น้อยลง ร่างกายก็จะผลิตน้ำนมลดลง และหมดไปในที่สุด