สายมูเตลู คืออะไร ที่มา และความเชื่อ

0
189

สายมูเตลู หรือคนที่เชื่อไสยศาสตร์ถือว่ามีอยู่ในสังคมไทยอย่างยาวนาน แต่ที่ปัจจุบันคนเรียก มูเตลู ก็มาจากหนังเรื่องหนึ่งของอินโดนีเซีย ที่มีชื่อเรื่องว่า มูเตลู ศึกไสยศาสตร์ ที่ฉายเมื่อปี 1979 เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการใช้มนต์ดำทำให้คนที่หมายปองมาหลงรัก

แต่มาในช่วงหลังคำว่ามูเตลู ถูกนำกลับมาใช้ ก็เป็นเพราะว่า มีคนดังหลาย ๆ คน ได้บูชาเครื่องรางของขลัง เช่นกำไรหินสี ตะกรุดแฟชั่น เพื่อเสริมดวง นำโชค ดูดทรัพย์ งานดี ความรักเด่น จึงเกิดเป็นกระแสขึ้นมาทำให้มีคนจำนวนมากหาของนำโชคเหล่านั้นมาบูชา

สายมูเตลู

แต่คำว่าสายมู สำหรับคนไทยแล้วไม่ได้หมายถึงเรื่องคาถามนต์ดำ หรือไสยศาสตร์เพียงอย่างเดียว แต่ยังเกี่ยวข้องกับการบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ การทำพิธีกรรมต่าง ๆ เกี่ยวกับศาสนาที่เป็นเชิงบวก การทำบุญเสริมดวงในด้านต่าง ๆ  รวมไปถึงการดูดวง การทำนายฝัน ความเชื่อในสิ่งที่มองไม่เห็น ด้วยเช่นกัน

สายมูเตลู ถือเป็นความเชื่อ ความศรัทธาส่วนบุคคล ไม่มีถูกมีผิด (เว้นเสียแต่ว่าสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อื่น หรือทำผิดกฎหมาย) เพราะไม่ได้มีแต่คนไทยเท่านั้นที่เชื่อ เพราะหลายประเทศทั่วโลกก็มีความเชื่อเรื่องแบบนี้เช่นกัน ยกตัวอย่างเช่นในประเทศญี่ปุ่น ตามสถานที่ศักดิ์สิทธิ์หรือวัดต่าง ๆ ก็มักจะมีเครื่องรางของขลังหลากหลายเช่น โอมาโมริ ที่เป็นเครื่องรางนำโชค เป็นถุงผ้าไหมขนาดเล็กสวยงามภายในถุงก็จะบรรจุของขลังเอาไว้ ซึ่งของขลังแต่ละถุงก็แยกประเภทกันออกไปเช่นหากอยากมีโชคด้านความรักก็ใช้ ถุงผ้าไหมสีชมพู หรืออยากมีโชคลาภเงินทองก็ให้ใช้สีฟ้าสีฟ้า

หรือจะเป็น สายมูเตลู ทางฮ่องกงที่วัดหวังต้าเซียนที่มีเทพเจ้าหยุคโหลวเทพเจ้าแห่งความรัก หากใครต้องการขอพรให้มีเนื้อคู่ หรือสมหวังในเรื่องความรัก หากใครอยากให้ครองรักกันไปจนแก่เฒ่าก็ให้ไปผูกด้ายแดงที่รูปปั้นชาย-หญิง รวมไปถึงยังมีเครื่องรางของขลังให้เราซื้อไว้ติดตัวเพื่อความเป็นสิริมงคลอีกด้วย

หากใครอยากมีโชคลาภ พบเจอแต่คนดี ๆ ปัดเป่าสิ่งไม่ดีสิ่งชั่วร้ายออกจากชีวิต ก็ให้ไปที่วัดวัดแชกง ซึ่งยังมีสิ่งของมูเตลูมากมายเช่นแหวน จี้ ที่เป็นรูปกังหัน ที่เชื่อกันว่าเป็นกงล้อแห่งโชคชะตา

หากเป็นฝั่งตะวันตก ฝรั่งก็จะมีความเชื่อทาง สายมูเตลู เช่นกัน อย่างตัวเลขนำโชค การพกเหรียญนำโชค เครื่องรางนำโชคอย่างสัญลักษณ์รูปเกือกม้า เครื่องดักฝันร้าย เป็นต้น